ถ้าถามถึงการเดินทางด้วยยานพาหนะต่างๆแล้ว หัวใจผมทั้งดวงมอบให้กับการเดินทางด้วยรถไฟ อย่างไม่ต้องสงสัย ชีวิตวัยเด็กของผมฝันมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่รู้จักรถไฟครั้งแรกก้อฝันว่าอยากเดินทางโดยไม่มีจุดหมายในขบวนรถไฟ พอโตขึ้นมาหน่อย ฝันอยากเป็นคนขับรถไฟ และคามทรงจำในวัยเด็ก คือ การที่พ่อกับแม่พาพวกเราสามคนพี่น้อง ไปปิกนิคกัน โดยเลือกที่จะไม่ขับรถและใช้การเดินทางโดยรถไฟแทน ขนมนมเนยที่ขายสองข้างทาง ความสุขที่พ่อแม่มอบให้ของการเดินทาง ทามให้จนบัดนั้นจนบัดนี้ผมหลงรักการเดินทางโดยรถไฟมาตลอด
สองข้างทางรถไฟได้มอบความคิดและสถาพความเป็นอยู่ของคนได้เป็นอย่างดี ภาพการนั่งรถไฟของผมและพ่อพร้อมกับการถกเถียงกันถึงสลัมที่ปรากฎอยู่สองข้างทางรถไฟ ทำไมมหานครเช่นกรุงเทพจึงมีคนที่มีสภาพเศรษฐกิจต่างกันเช่นนี้ คนบางคนกลับใช้ชีวิตที่หรูหรา แต่กลับอีกพวกนึ่งแค่ข้าวนึ่งมื้อยังไม่มีเงินจะซื้อเลย
ทุกครั้งที่นั่งรถไฟ ภาพในอดีตได้ผุดขึ้นในใจผม คิดถึงคุณย่า ท่านชอบเดินทางโดยรถไฟเสมอ ท่านมาพร้อมกับความสุข และจากไปยังที่ต่างๆโดยรถไฟ ผมคิดถึงท่านทุกครั้งเมื่อมองเห็นขบวนรถไฟ เห็นสะพานพระราม6 และพระปฐมเจดีย์ ผมคิดถึงความทุกข์จาการได้รับข่าวร้าย ช่วงเวลาที่คุณอาเสียชีวิตเมื่อ 20 กว่าปีก่อน คุณปู่เดินขึ้นรถไฟ ด้วยความสงบแม้ท่านจะแบกรับกับความเจ็บปวดของการสูญเสียลูกชายคนเล็ก
การเดินทางโดยรถไฟจึงมีความหมายเสมอสำหรับผม คงต้องขอบคุณเพื่อนรัก โต้ง ที่เมื่อวานเราได้ไปทานข้าวกันที่เยาวราช ผมเป็นคนเสนอว่าเรากลับบ้านด้วยรถไฟกันมะ เพื่อนรักไม่ลังเลเราซื้อตั๋วที่หัวลำโพงไปลงบางเขน จับรถไฟได้ตอน เกือบสามทุ่ม เราคุยกันหลายเรื่อง โต้งไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เมื่อวิทนั่งรถไฟอีกครั้งโต้งคือเรื่องๆนึ่งที่วิทจะคิดถึง......