Sunday, November 25, 2007

Remembrance of things lost


Remembrance of things lost เป็นหนังสือเล่มสุดท้ายที่พระเอก มอบให้นางที่เป็นรักแรก ในหนังเรื่อง Love letter หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ผมดูมากกว่า 5 รอบ ทุกครั้งที่ได้ดูหนังเรื่องนี้มักทำให้ผมมีความสุขเสมอ


ผมไม่ยากเล่าพลอตเรื่องนี้อีกแล้วนะครับ อยากให้คนที่สนใจลองไปหามาดู( http://www.popcornfor2.com/movies/012_sept_loveletter.html) แต่สิ่งที่ผมชอบ คือ ในชีวิตของคนเราในแต่ละช่วงวัย เรามักจะมีคำถามที่เป้นปมอยู่ในใจเสมอ เช่น ในช่วงม.ต้น ผมอยากถามผู้หญิงคนนึ่งที่เป็นรักแรกของผมว่าช่วงเวลาที่ผมมีความรุ้สึกที่ดีกับเธอ เธอรู้สึกเช่นไร และเธอมีความสุขแค่ใหนในสิ่งต่างๆที่ผมได้ทำให้เธอ แม้ว่ามานจะเป็นแค่ช่วงเวลาที่แสนสั้นก็ตาม


เหตุนี้เองที่ผมชอบหนังเรื่องนี้เพราะหนังได้ให้คำตอบในใจผม โดยผ่านการเล่าเรื่องของผู้หญิงสองคน การเล่าเรื่องทำให้คำถามในใจของคนทั้งสองได้รับการเปิดเผย ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามแต่ไม่จำเป็นตอ้งครอบครอง ผมแอบอิจฉาที่ตัวละครทั้งสองคนได้รับคำตอบอันนั้น


ผมยังแอบนึกสนุกที่คิดว่า วันนึ่งเมื่อผมมีคนรักที่คิดจะแต่งงานด้วย การได้เขียนจดหมายหาเพื่อนเก่าของผู้หญิงคนนี้ เพื่อฟังเรื่องราวในอดีตของเธอ คงเป็นเรื่องน่าสนุกและน่าตื่นเต้นเอามากๆ


ผมชอบมุมมองความคิดของหนังเรื่องนี้โดยสื่อในรูปจดหมาย โดยส่วนตัวผมเป้นคนที่ชอบเขียนจดหมายและส่งโพสการ์ดหาคนในครอบครัวและเพื่อนที่สนิทอยู่เสมอ ผมคิดว่าการเขียนจดหมายเป้นการสื่อสารที่คลาสสิค แม้ว่าในปัจจุบันจะมีการสื่อสารทีทันสมัยหลายรูปแบบแล้วก้อตาม


Remembrance of things lost หรือ ความทรงจำถึงสิ่งที่สุญไป อาจจะชัดเจนยิ้งขึ้นถ้าคนเราคิดที่จะสื่อสารและแสดงถึงความรู้สึกของตัวเองออกไป การสื่อสารของคนเราจึงมีความสำคัญในแบบนี้นี่เอง

Tuesday, November 20, 2007

สวยงามที่น้ำใจ


ในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมชีพจรลงเท้า คือ เดินทางท่องเที่ยวไปเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน และเดินทางไปเมืองกาญจน์เพื่อไปงานบวชพี่ต้นเพื่อนรุ่นพี่ที่ผมสนิทการเดินทางในสองทริปมีบางอย่างที่ทำให้ผมประทับใจมาก คือ การได้รับน้ำใจและการเป็นผู้แสดงความมีน้ำใจต่อเพื่อนรุ่นพี่


หลายครั้งที่ผมที่ผมมักได้ยินหลายคนพูดว่า ความงามของคนเกิดจากคนๆนั้นเป็นคนที่มีน้ำใจมากกว่ารูปร่างหน้าตา ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่าคำๆนี้จะเป็นจริง จนผมได้รับน้ำใจจากเพื่อนที่เป็นนายทหารที่เชียงใหม่ ที่คอยต้อนรับขับสู้กลุ่มพวกผมเป็นอย่างดี แต่สิ่งสวยงามคือ น้องของเพื่อนเทคแคร์เราดีมากผมประทับใจมาก ถ้าพูดถึงรูปร่างน่าตาน้องเค้าก็เป็นผู้หญิงน่าตาธรรมดา แต่น้ำใจและกริยามารยาทที่ดี ก็ทามให้ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่สวยงามจัง สวยกว่าผู้หญิงที่รูปร่างน่าตาดีแต่ไร้ซึ่งมารยาทและน้ำใจ


ส่วนการแสดงน้ำใจ ผมมีความสุขที่ได้แสดงน้ำใจโดยไปร่วมงานบวชของพี่ต้น การเป็นเพื่อนมันมากกว่าการเที่ยวเตร่ คุยกันถูกคอ แต่ผมชอบที่แสดงให้เห็นว่า เราเป็นเพื่อนกันจริงๆและร่วมทุกข์ร่วมสุข ผมว่าพี่ต้นคงดีใจมากที่เห็นพวกเราพร้อมหน้าพร้อมตา ความสุขของการมีเพื่อนคงเป็นแบบนี้เอง เป็นความสุขที่ได้รับน้ำใจจากเพื่อนและความสุขจากการแบ่งปันน้ำใจให้กับเพื่อน


ความน่ารักของคนคงไม่ใช่แค่รูปร่างน่าตาดี แต่สำหรับผมคนที่จะสวยงามได้คงจะต้องมีน้ำใจเป็นพื้นฐานเพราะความน่ารักตรงนี้จะยืนนานและคงอยู่ตลอดไป

Saturday, November 03, 2007

รักตัวเอง


ผมคิดที่จะเขียนเรื่องนี้นานแล้วนะครับ เพราะหลายครั้งผมได้คุยกับเพื่อน รุ่นพี่หรือรุ่นน้อง หลายคนมีปัญหาที่รักทุกคนได้ในโลกนี้ แต่ไม่เคยรักตัเองเลย การตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องนี้ เกิดจากที่ผมเข้าไปอ่าน สเปซของรุ่นน้อง รวมถึงการพูดคุยกับเจ้ เรื่องเพื่อนที่อกหัก น่าเสียใจที่เค้าคิดว่าตัวเองรู้จักความรัก กับแค่รักตัวเองยังไม่เคยรักเลยแล้วแบบนี้จะรักคนอื่นได้หรือ?


รุ่นน้องของผมไปหลงรักผู้ชายคนนึ่ง ซึ่งผมมองเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรกับรุ่นน้องเลย แต่รุ่นน้องก้อไม่ละความพยายาม โทรหาเช้าเย็น จนถึงวันนึ่งเมื่อผู้ชายคนนี้พูดตรงๆ ว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับรุ่นน้องของผม เธอเจ็บมาก และย้ำคิดย้ำทำกับเรื่องความรักครั้งนี้ เช่นเขียนในบล็อกว่าลืมผู้ชายคนนี้ได้แล้วบ้าง แต่เมื่ออ่านข้อความข้างในก้อเห็นถึงความเจ็บปวดที่ยังเกิดขึ้น ทามไมจริงๆจึงลืมผู้ชายคนนี้ไม่ได้ซักที


ส่วนเพื่อนของเจ้ ความรักที่ไม่สมหวังเกิดจากที่แฟนของเค้า กลับไปจีบผู้หญิงที่เค้าเคยรักเมื่อในอดีต เจ้สรุปว่าผู้ชายไม่ดี แต่ผมเห็นต่างกัน ผมมองว่า ผู้หญิงผู้ชายคู่นี้ต่างกันเกินไป ผู้หญิงรวยมากระดับเศรษฐีทีเดียว ส่วนผู้ชายเป็นคนเดินดินธรรมดาคนนึ่ง แต่จริงสิ่งนี้ไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าผู้หญิงมีความคิดที่โตกว่านี้ อีกทั้งบ้านผู้หญิงคนนี้ก้อไม่ยอมรับผู้ชาย แต่อุปสรรคก้อเป็นการพิสูจน์รักแท้ แต่ผมมองว่า ผู้ชายคงรู้และประเมินตัวเองตั้งแต่ต้น ว่าคงเป็นไปไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้เฝ้าโทรไปง้อเพื่อขอคืนดี พยายามให้ผู้ชายกลับมา แต่ไม่พยายามที่จะมองโลกให้ตัวเองมีความสุข


ผมไม่อยากสรุปว่า สาวน้อยทั้งสองคนควรทำเช่นไร แต่ทั้งสองคน ลืมรักตัวเอง และพยายามที่จะหาความรักจากสิ่งภายนอกและจากคนอื่นซึ่งในท้ายที่สุดคนที่เจ็บปวดที่สุดก้อคือตัวเอง เพราะไม่มีใครหรอกที่จะให้ความรักเราได้ตลอดเวลา นอกจากตัวเรา ถ้าถามว่าปัญหาแบบนี้เกิดกับผม ผมจะทำเช่นไร เริ่มต้นผมคงรักคู่รักหรือรักคนที่ผมจะจีบด้วยความรักที่รัก ก้อคือรักเค้าทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเค้าโดยไม่หวังว่า ในท้ายที่สุดเค้าจะรักผมหรือเปล่า ถ้าผมพยายามอย่างเต็มที่แล้วเค้ายังไม่รักผม ผมก็คงต้องคิดอีกในมุมนึ่งว่า การที่ไปวุ่นวายกับชีวิตเค้ามากเกินไปเค้าจะเบื่อมั้ย ทุกคนย่อมต้องการความเป็นส่วนตัว ควรคิดว่าการที่เราทามอะไรให้เค้าเค้าอาจไม่ต้องการก็ได้ นั้นย่อมทำให้การที่เรา เข้าไปพยายามทำโน่นทำนี่กลับเป็นการรบกวนมากกว่า ที่จะทามให้เค้าประทับใจ


ส่วนในกรณีเพื่อนของเจ้ ผมคงปล่อยเค้าให้ลองที่จะรักกับคนที่เค้าเคยรักในอดีต และเป้นเพื่อนของเค้าต่อไป และถอยออกมาที่จะคิดว่าความรักครั้งนี้เราพลาดอะไร เราเอาแต่ใจมากเกินไปหรือเปล่า และพยายามปรับปรุงตัวเองให้ความรักครั้งใหม่ต้องดีกว่าครั้งนี้


ปัญหาทั้งสองจะดีขึ้น ถ้าพวกเค้าจะรู้จักที่จะรักตัวเอง เมื่อรู้จักที่จะรักตัวเองแล้ว เราย่อมแคร์ตัวเอง และอยากให้ตัวเองมีความสุข ความรักน่าจะเกิดจากการรักตัวเองก่อนนะครับ เมื่อเรารู้จักที่จะรักตัวเอง เราจึงขยายความรักไปให้คนรอบข้างและความรักนี้ก็ไม่หวังผลตอบแทน ส่วนการที่อาจมีคนมารักเพราะเราได้ขยายความรักไปให้เค้ามันเป็นผลพลอยได้ และอีกอย่างชีวิตมีหลายแง่มุม เช่น เรามีครอบครัว เพื่อน ทามไมต้องให้ความผิดหวังในแง่มุมเล็กๆมากำหนดชีวิตเรา


หันมารักตัวเอง เมื่อเรารักตัวเองเราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีความสุข เราจะอยากที่จะออกกำลังกายเพราะเราอยากให้ร่างกายแข็งแรง และเราจะรู้จักที่จะอยู่กับตัวเองได้เพราะเรามีความรักให้ตัวเองนั่นเอง