Friday, May 18, 2007

รถไฟ


ถ้าถามถึงการเดินทางด้วยยานพาหนะต่างๆแล้ว หัวใจผมทั้งดวงมอบให้กับการเดินทางด้วยรถไฟ อย่างไม่ต้องสงสัย ชีวิตวัยเด็กของผมฝันมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่รู้จักรถไฟครั้งแรกก้อฝันว่าอยากเดินทางโดยไม่มีจุดหมายในขบวนรถไฟ พอโตขึ้นมาหน่อย ฝันอยากเป็นคนขับรถไฟ และคามทรงจำในวัยเด็ก คือ การที่พ่อกับแม่พาพวกเราสามคนพี่น้อง ไปปิกนิคกัน โดยเลือกที่จะไม่ขับรถและใช้การเดินทางโดยรถไฟแทน ขนมนมเนยที่ขายสองข้างทาง ความสุขที่พ่อแม่มอบให้ของการเดินทาง ทามให้จนบัดนั้นจนบัดนี้ผมหลงรักการเดินทางโดยรถไฟมาตลอด


สองข้างทางรถไฟได้มอบความคิดและสถาพความเป็นอยู่ของคนได้เป็นอย่างดี ภาพการนั่งรถไฟของผมและพ่อพร้อมกับการถกเถียงกันถึงสลัมที่ปรากฎอยู่สองข้างทางรถไฟ ทำไมมหานครเช่นกรุงเทพจึงมีคนที่มีสภาพเศรษฐกิจต่างกันเช่นนี้ คนบางคนกลับใช้ชีวิตที่หรูหรา แต่กลับอีกพวกนึ่งแค่ข้าวนึ่งมื้อยังไม่มีเงินจะซื้อเลย


ทุกครั้งที่นั่งรถไฟ ภาพในอดีตได้ผุดขึ้นในใจผม คิดถึงคุณย่า ท่านชอบเดินทางโดยรถไฟเสมอ ท่านมาพร้อมกับความสุข และจากไปยังที่ต่างๆโดยรถไฟ ผมคิดถึงท่านทุกครั้งเมื่อมองเห็นขบวนรถไฟ เห็นสะพานพระราม6 และพระปฐมเจดีย์ ผมคิดถึงความทุกข์จาการได้รับข่าวร้าย ช่วงเวลาที่คุณอาเสียชีวิตเมื่อ 20 กว่าปีก่อน คุณปู่เดินขึ้นรถไฟ ด้วยความสงบแม้ท่านจะแบกรับกับความเจ็บปวดของการสูญเสียลูกชายคนเล็ก


การเดินทางโดยรถไฟจึงมีความหมายเสมอสำหรับผม คงต้องขอบคุณเพื่อนรัก โต้ง ที่เมื่อวานเราได้ไปทานข้าวกันที่เยาวราช ผมเป็นคนเสนอว่าเรากลับบ้านด้วยรถไฟกันมะ เพื่อนรักไม่ลังเลเราซื้อตั๋วที่หัวลำโพงไปลงบางเขน จับรถไฟได้ตอน เกือบสามทุ่ม เราคุยกันหลายเรื่อง โต้งไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เมื่อวิทนั่งรถไฟอีกครั้งโต้งคือเรื่องๆนึ่งที่วิทจะคิดถึง......

Saturday, May 12, 2007

ความรักที่ต้องเลือก


ในรอบหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาผมค่อนข้าง เขียนแต่เรื่องหนักๆ มาฟังเรื่องสบายๆ กันดีกว่า แต่ผมก้อยังไม่แน่ใจนะว่า จะเป็นเรื่องเบาๆ หรือยิ่งหนักกว่าก้อไม่รู้ แต่สำหรับผม ผมได้คำตอบนี้แล้ว คือ คำถามที่ว่า ความรักต้องเลือก คือเลือกที่จะสานต่อความสัมพันธ์ของเราให้ก้าวหน้ามากขึ้น ให้ทุกอย่างชัดเจน หรือเลือกที่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน



ในช่วงก่อนหน้านี้ผมค่อนข้างอึดอัดใจกับเรื่องนี้มาก เพราะเมื่อความรักเริ่มเกิดกับเรา มันตามมาด้วยการ เป็นห่วงเค้า อยากไกล้ชิด และที่สำคัญคือ แอบหึงหวง นี้หละผมเริ่มเกิดความทุกข์ขึ้นมาแล้วละ ห่วงว่าจะมีชายหนุ่มคนอื่นเข้ามาแทนที่เราบ้างละ ความรักของผมตอนนี้ช่างเป็นความรักที่เห็นแก่ตัวซะเหลือเกิน คือ เห็นแต่ตัวเองเป็นความรักที่มีแต่การผูกมัดโดยลืมคิดไปว่า นะวันนี้ผมม่ายมีปัญญาที่จะเลี้ยงดูเค้าได้เลย แค่ปัญญาเอาตัวเองให้รอด ผมยังเอาตัวไม่รอดเลยนะ


ผมเริ่มคิดอย่างรอบคอบ คิดไกลถึงอนาคต การบรรจบของเส้นทางของเราทั้งสอง ผมเริ่มยิ้มออก ผมรู้แล้วละ ว่าผมจะทามเช่นไร ผมเลือกความสัมพันธ์ในรูปแบบของการเป็นเพื่อนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ผมถอยมานึ่งก้าว เลิกที่จะวุ่นวายและใส่ใจเกินกว่าเพื่อนคนนึ่งจะทำ เลิกที่จะคอยห่วงว่าจะมีชายหนุ่มคนไหนเข้ามาในชีวิตเค้าหรือไม่



เมื่อเลิกที่จะยึดติดกับรูปแบบของความสัมพันธ์ คอยเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ และไม่คาดหวังว่า ในท้ายที่สุดผู้ชายคนนั้นจะใช่เราหรือเปล่า ผมเริ่มมีความสุขขึ้น ชีวิตผมเป็นอิสระมากขึ้น ในเมื่อผมยังมีความเป็นส่วนตัวสูงขนาดนี้ ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตใครได้ ตอนนี้คงแค่ฝึกที่จะดูแลพ่อแม่ เจ้ และน้องให้ดีก่อน นะวิท และเมื่อวันเวลาของอนาคตมาถึง วิทนั้นแหละจะเป็นคนรู้คำตอบนั้นนั่นเอง ว่าผู้หญิง คนนี้ คือ คนที่อยู่ในอนาคตของวิทหรือไม่ จงทำสิ่งที่ควรทำนะวิท และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด