Friday, April 27, 2007

คำพ่อ คำแม่


ผมค่อนข้างอมยิ้มในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เพราะผมได้เลือกช่วงเวลานี้ ในการอยู่กับครอบครัว ได้ใช้เวลากับพ่อ คุยเรื่องการใช้ชีวิตกับแม่ แม้ว่าจริงๆแล้วช่วงเวลาตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ผมกำลังพักเพื่อเติมไฟ ในการต่อสู้อะไรๆที่กำลังจะเข้ามาในชีวิต แต่เมื่อเพื่อนได้เห็นชื่อเรื่องที่ผมได้เขียนใว้ คำพ่อ คำแม่ กลับไม่ใช่คำพ่อ คำแม่ของผมนะครับ แต่กลับเป็นชื่อหนังสือ ที่เขียนโดยพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต)


ผมค่อยๆอ่านแม้ว่าภาษาที่ใช้เขียนอาจจะไม่ได้สวยงานอ่านไพเราะ แต่ผมกลับมองเห็นถึงหลักปรัชญาที่เขียนในหนังสือเล่มนี้ เช่น

"คิดก่อนพูด

ลูกรัก...ปากคนนั้นนำสุขมาให้ก็ได้ นำทุกข์มาให้ก็ได้ มีคำเตือนมากมายเกี่ยวกับปาก เช่นว่า “พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” เมื่อลูกคบหากับใคร ทำงานที่ไหนก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังให้มากคือปาก ท่านกล่าวว่า “จงเก็บปากไว้ที่ใจ อย่าเก็บใจไว้ที่ปาก” คืออยากพูดอะไรก็เก็บไว้ในใจ อย่าพูดทุกอย่างตามที่ใจคิด พูดมากโอกาสพลาดก็มีมาก พูดน้อยก็พลาดน้อย เมื่อจำเป็นต้องพูดก็ควรพูดอย่างมีสติ พูดพอประมาณ พูดอย่างสร้างสรรค์ ถูกธรรม และประกอบด้วยประโยชน์ ท่านบอกไว้ว่า “คำพูดที่ดังเกินไป คำพูดที่แรงเกินไป คำพูดที่เกินความจริง ล้วนฆ่าคนพูดผู้โง่เขลาได้ทั้งสิ้น”


ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งในเรื่องนี้และยังมีอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมีระเบียบวินัย เรื่องการหนักเอาเบาสู้ การใช้เงิน และอีกหลายเรื่อง ฯลฯ ยิ่งผมอ่านผมยิ่งรู้ว่าการที่จะเป็นคนได้อย่างสมบูรณ์ต้องฝึกฝน และใช้ความเพียรในการชนะใจตัวเอง ซึ่งทำได้ยากมากแต่ถ้าเราผ่านด่านที่ยากที่สุดนี้ได้ ผมมั่นใจว่าเราคงไม่ตอ้งกลัวอะไรอีกแล้ว ลองเอาคำพ่อ คำแม่ บวกกับความเพียรในการชนะใจตัวเอง ผมอยากรู้จังว่าความสวยงานของการชนะใจตัวเองตจะสวยงามเช่นไรเรามาข่งกันมะ มาแข่งกันชนะใจตัเองเพื่อปฏิบัติตามคำพ่อ และแม่นั้นเอง

No comments: