Monday, September 15, 2008

เขาน้ำค้าง

เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ผมมีแผนนะครับว่า ช่วงบ่ายของวันนี้ ผมจะมีการเดินทางท่องเที่ยวไปยัง อ.นาทวี จ.สงขลา โดยเป้าหมายของการเดินทาง คือ การไปเยี่ยมชมเขาน้ำค้าง โดยมีเพื่อนร่วมเดินทาง คือ พี่แหวน และพี่ปุ๋ย เขาน้ำค้างมีอะไรน่าสนใจหรือ?

พวกเราเริ่มต้นการเดินทาง โดยออกจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ในช่วง เวลาประมาณเกือบบ่ายโมง การเดินทางทุลักทุเลเล็กน้อย เพราะฝนตกอย่างหนักมาก แต่เราก้อยังคงตรงดิ่งสู่จุดหมายที่เรามุ่งมั่นใว้ตั้งแต่แรก

อ.นาทวี เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสงขลา การเดินทางเราต้องเดินทางใช้ถนนสายเดียวกับการเดินทางไปปัตตานี ตลอดทางมีทหารรักษาการตลอด ผมแอบสังเวทใจ ทำไมเราก็คือ มนุษย์เหมือนกัน เพียงแต่ต่างกันที่ความเชื่อทางศาสนา แต่เราก็หิวเหมือนกัน มีความสุข ความทุกข์เหมือนกัน ทำไมเราต้องฆ่าฟันกันด้วยนะ

อ.นาทวี เป็นอำเภอที่ไหญ่มาก ผู้คนคึกคัก ไม่ได้เป็นอำเภอที่น่ากลัวดั่งที่ผมคิดตอนแรก เราไปรับเพื่อนร่วมทางเพิ่มอีก 2 คน ที่เป็นญาติของพี่แหวน ผมว่าคู่สามี ภรรยาคู่นี้ดูน่ารักดีนะ ความสุขของคนเราคืออะไร บางทีการที่เราเสพย์ความสุขในทุกๆปัจจุบันน่าจะเป็นความสุขที่สุด

เราถึงเขาน้ำค้างก็บ่ายมากนะครับ เราเลยเริ่มต้นภารกิจการปีนเขากันละ อย่าพึ่งตกใจนะครับ เขาน้ำค้างเป็นเขาที่โจรจีนคอมมิวนิสในอดีต ขุดเป็นถ้ำภายในภูเขาเพื่อเป็นที่หลบซ่อน ผมว่าการก่อสร้างน่าทึ่งมาก ภายในถ้ำมีห้องต่างๆมากมาย คงต้องใช้แรงกาย แรงใจ และอุดมการณ์อันแรงกล้าในการสร้างถ้ำแห่งนี้มาได้ น่านับถือ

ทุกห้องตั้งแต่ห้องนอนผู้นำ ห้องประชุม ห้องผ่าตัด ห้องยิงปืน ห้องส่งโทรเลข ผมว่าคนยุคก่อนเป็นผู้ที่มีรสนิยม และมีสายตาที่ยาวไกลจริงๆ แต่ห้องที่สุดแสนจะโรแมนติก ก็คือ ห้องหอของคู่แต่งงาน ที่จะอยู่ออกมานอกถ้ำเพื่อให้ทั้งสองได้มีเวลาส่วนตัวในยามค่ำคืนกลางป่าเขา โอววว ช่างโรแมนติกจัง

ในท้ายที่สุด การสู้รบของโจรจีนก็จบลง โดยการใช้นโยบายที่สันติของรัฐบาลไทย การที่คนไทย มองเห็นถึงความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน และการชวนพวกเค้ามาร่วมกันพัฒนาประเทศไทย การปราบกองโจรพวกนี้จึงสำเร็จลงด้วยดี

การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ดีมาก บางครั้งการเรียนรู้ประวัตติศาสตร์ เพื่อมาแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน รวมถึงการเข้าถึงความเป็นมนุษย์ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ก็สามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างลงได้............

No comments: