Tuesday, January 16, 2007

Crying out Love, in the Centre of the World :พร่ำหัวใจเพรียกหารักที่กลางโลก


ความรักจะอยู่กับเรานานแค่ใหนกันนะ เป็นวลีที่ผมตั้งคำถามจากการได้ดูหนังเรื่องนี้ ผมได้ดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนครับ ดูแบบไม่ค่อยทราบซึ้งในความสวยงาม ในโครงเรื่องอาจจะเป็นเพราะวันนั้นเป็นวันที่ดูค่อนข้างฉุกละหุกในหลายๆเรื่อง จนเมื่อผมได้ไปเดินครองถม และลองซื้อหนังเรื่องนี้มาดูอีกครั้งหนึ่งไม่ต้องแปลกใจเลยว่าการดูครั้งที่สองของผมกลับทำให้ผม ประทับใจ เจ็บปวด และลุ้นว่าในท้ายที่สุดบทสรุปของเรื่องนี้จะจบลงเช่นไร

เรื่องดำเนินไปในตอนแรก โดยมีพายุใต้ฝุ่นหมายเลข 29 ได้พัดเข้าสู่เกาะคิวชู ซึ่งใต้ฝุ่นลูกนี้เป็นปมของเรื่องได้เป็นอย่างดีเพราะเมื่อ 17 ปีก่อนพระเอกของเรื่องได้เกิดความรักขึ้น และความรักไม่สมหวัง การพัดมาของใต้ฝุ่นก้อทำให้ริทซึโกะ ต้องทำภารกิจสุดท้ายคือการนำเทปคาสเส็ตกลับไปให้เจ้าของโดยหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มที่เค้าตามหาก้อคือ คู่หมั้นของเค้านั้นเอง

การดำเนินเรื่องราว ใช้การบันทึกเสียงในเทปคาสเส็ตส่งหากัน ระหว่าง อากิ และ ซากุ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่สวยงามมาก ผมเคยคิดกับตัวเองว่าเมื่อผมได้เจอผู้หญิงที่ผมมั่นใจว่าจะแต่งงานด้วย ผมจะเขียน ไดอารี่หาเค้าทุกวันนะ ซึ่งเมื่อมาดูเรื่องนี้ทำให้เติมเต็มความคิดของผมในเรื่องการเขียนไดอารี่ยิ่งจขึ้นนะครับ การเล่าเรื่องทำให้เราเข้าใจเหตุการณ์ ความรักของทั้งสองในช่วงเวลานั้น ทำไมความรักช่างดูสวยงานและยิ่งใหญ่เหลือเกินนะ ชักอยากจะลองมีความรักบ้างจัง

ความสวยงามของความทรงจำ การผูกเรื่องได้อย่างงดงาม การใช้สัญลักษณ์ ความรักที่ยืนยงและความทรงจำเก่าๆ โดยชายเจ้าของร้านถ่ายรูป สัญลักษณ์ของของอากิสาวคนรักเก่า กับซากุที่เคยไปพักยังบ้านร้างบนเกาะแห่งหนึ่งทำให้ผมพอทราบว่าความรักของทั้งสองจะไม่สมหวัง

ผมทราบซึ้ง และคิดถึงตัวเองว่า ความรักของตัวเองไม่เคยหายไปไหน ยังอยู่ในใจของผมแต่สิ่งเหล่านี้ คือ บทเรียนให้ผมได้ก้าวเดินต่อไป เพื่อนๆละดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง แต่ผมรับประกันได้ว่าทุกคนจะมีความสุขเมื่อได้เสพย์หนังเรื่องนี้ ขอให้มีความสุขกับการได้ดูหนังเรื่องนี้นะครับ

1 comment:

Anonymous said...

ช้าไปแล้ว ผมให้คนอื่นยืมไปแล้วนะ