Sunday, July 22, 2007

วันอาทิตย์


วันอาทิตย์ของทุกอาทิตย์ผมมักจะนัดกับเพื่อนๆไห้น้อยที่สุดนะครับ แค่แผนการว่าทุกเช้าวันอาทิตย์ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนภาษาจีน ก็ทำให้เวลาช่วงเช้าของผมก้อหายไปครึ่งวัน รวมถึงการต้องมีนัดกับท่านอาจารย์เพลินพิศในทุกวันอาทิตย์ตอนบ่ายสอง ช่วงเกือบทั้งวันของวันอาทิตย์ผมก้อหายไปเกือบทั้งวัน แต่ผมไม่ลืมเสมอ คือ เมื่อทำภารกิจทั่งสองเสร็จผมชอบที่จะตรงดิ่งกลับบ้าน


ผมชอบกลับบ้านเร็ววันอาทิตย์เพราะ ผมมักจะแพลนที่จะต้องกลับมารีดเสื้อผ้า ทำงานบ้านอีกเล็กน้อย แต่สิ่งที่เป็นเป้าหมายของผมของการรีบกลับบ้าน ไม่ได้มีเหตุผลแค่นี้ เหตุผลที่สำคัญที่สุด คือ ยิ่งถ้าผมและเจ้ช่วยกันทำงานบ้านเสร็จเร็วแค่ไหน เราก้อมีเวลาที่ได้ออกกำลังกายด้วยกันมากขึ้น


ผมชอบที่จะจ็อกกิ้งเบาๆกับเจ้นะ แต่ส่วนใหญ่เป็นการเดินเสียมากกว่า เพราะช่วงนี้เจ้แกปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้นำหนักเพิ่มขึ้น จนพวกเราทั้ง พ่อ แม่ น้องนุช และผมต้อง ไซโคอย่างหนักว่าเจ้ต้องหันมาดูแลตัวเองได้แล้ว การทำงานอย่างหนักของเจ้ แม้ว่าจะได้รับรายได้ที่มากก้อตามแต่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าแลกมาด้วยการมีสุขภาพที่ไม่ดี ผมเลยเปนตัวตั้งตัวตีที่จะต้องนำเจ้มาออกกำลังกายละ รวมถึงต้องปลุกเจ้ตอนตีห้าเพื่อมาออกกำลังกายก่อนไปทามงาน


การทามกิจกรรมเช่นนี้กลับทำให้ผมเสียอีกที่ได้รับอะไรบางอย่างจากการออกกำลังกายครั้งนี้ ในระหว่างอาทิตย์เราแทบไม่ได้คุยกันเลย เจ้กลับมาจากทามงานก้อตาลีตาเหลือก ที่จะต้องพักผ่อน ส่วนผมก้อต้องสวดมนต์หนึ่งชั่วโมง แล้วอ่านหนังสืออีกนิดหน่อยก่อนนอน ทามให้เราเลยไม่ได้คุยกัน การที่เราเปลี่ยนแผน โดยมาออกกำลังกายด้วยกันในวันอาทิตย์ ผมได้คุยกับเจ้หลายเรื่องมาก แทนที่ผมจะช่วยให้เจ้ได้ออกกำลังกายผมกลับได้ไอเดียร์เยอะเลยจากเจ้ สิ่งนั้นคืออะไรหรือ


ผมได้คุยกับเจ้เรื่องการใช้ชีวิตนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อนของเจ้ และรื่อง ที่ผมเห็นด้วยกับเจ้คือการใช้ชีวิตในโลกเดียวนี้ ซึ่งต้องใช้ความอดทนอย่างมาก แต่เรื่องที่เราคุยกันในอาทิตย์นี้ เราเน้น คุยกันในเรื่องการใช้เงิน ส่วนตัวผมเป้นคนใช้เงินแบบสบายๆ คือไม่ค่อยสนใจกับอะไรมาก อยากใช้อยากซื้อ ก้อเต็มที่ โดยไม่เคยคิดเลยว่าเดือนๆหนึ่งเงินทองของผมหมดไปกับอะไร ซึ่งถ้าผมใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปผมต้องลำบากแน่ๆ ผมกับเจ้เลยนึกเกมส์อะไรๆสนุกทามกัน คือ ตั้งแต่สิ้นเดือนนี้ เราจะวางแผนว่า รายจ่ายของเราจะมากองเป็นเงินหลายๆกอง โดยแยกอย่างชัดเจนว่าเราจะใช้แต่ละส่วนเท่าไร เช่นใช้เป็นค่าโทรศัพยื ใช้เป้นค่าอาหาร ใช้เป็นค่าเอนเตอร์เทน ให้ตัวเอง เพระเงินทองสามารถเล่นกลย์กับเราได้ ถ้าเรารู้ที่จะอดออม และเงินที่จะออมไว้พื่ออนาคต(สำหรับผมอาจเป็นเงินขอสาวแต่งงาน55) และที่สำคัญคือสิ่งที่เราทามจะสอนให้เรามีระเบียบวินัยในการใช้เงิน มองดูเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กที่ถ้าเราไม่เคยฝึกตัเองเลยและปล่อยให้เงินทองเล่นตลกกับเรา โดยการใช้บัตรเครดิตเอ้ย การใช้จ่ายเกินตัวบ้างละ นี่หละที่ผมยังต้องฝึกให้ตัวเองที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่อยู่ในโลกนี้อย่างปลอดภัย


วันอาทิตย์สำหรับผมก้อเลยวันที่พิเศษแบบนี้นี่เอง แต่สิ่งที่ยังหนักใจ คือทามอย่างไรให้น้ำหนักของเจ้ลดลงให้ได้ เอานะวิทสู้ๆ เพื่อเจ้.......

No comments: