Thursday, November 30, 2006

เดินทางท่องเที่ยว



ผมห่างหายจากการอัพเดทบล็อกเป็นเวลานานเลยทีเดียวนะครับ เพราะผมคิดว่าผมจะมาเขียนบล็อกอีกครั้งหลังจากผมเดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น จังหวะชีวิตของผมในช่วงนี่แม้จะลุ้นและขบคิดกับการทำวิทยานิพนธ์ ก้อมีการก้าวเดินจังหวะใหม่ให้ผมรู้สึกตื่นเต้น นั้นคือ การเดินทางท่องเที่ยวยังประเทศญี่ปุ่น ผมคิดอยู่นานเลยทีเดียวว่าจะเขียนไดอารี่ในตอนนี้อย่างไรดี ให้ทุกคนที่อ่านได้ความรู้จากการเดินทางของผม และผมมีวัตถุประสงค์ของการเขียนนี้ไม่ใช่อวดดีขี้โม้กับการเดินทางท่องเที่ยวเล็กๆน้อยๆทริปนี้

ผมไม่เคยคิดว่าจะเดินทางไปไหนเลยในช่วงเวลานี้เพราะผมมีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ที่ต้องทำ และปัญหาอีกหลายอย่างที่ผมต้องแก้ไขรออยู่มากมาย เพียงแต่นิสัยที่ชอบเกรงใจคนอื่น ผมเลยไม่ปฏิเสธพี่ฉั่วเสียทีเดียวที่ชวนผมว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นกันดีกว่า จนแล้วจนรอดผมเลยตกกะไดพลอยโจนกับการเดินทางครั้งนี้ แต่ผมกลับได้อะไรมากกว่าที่คิดมากมายเลยทีเดียว

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มหัศจรรย์ประเทศหนึ่ง เป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่น้อยมาก รวมถึงเป็นเขตที่เกิดแผ่นดินไหวได้ง่ายมากอีกด้วย แต่เกิดอะไรขึ้น ประเทศนี้กลับเป็นประเทศที่เจริญอย่างมาก ผมเริ่มประทับใจประเทศนี้ตั้งแต่ก้าวเท้าถึง การวางแผนระบบขนส่งในประเทศนี้ช่างอัฉริยะซะเหลือเกิน ทำไมประเทศเราจึงขาดการคิดและวางแผนระยะยาวอย่างประเทศญี่ปุ่น ในเมื่อเราเริ่มต้นการมีรถไฟสายแรกพอๆกับญี่ปุ่น รวมถึงการตรงเวลาของรถไฟ ซึ่งตรงเวลามาก ทั้งการออกจากสถานี และการถึงสถานีปลายทางผมทึ่งสิ่งนี้มากอยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดกับประเทศเราจัง

คนญี่ปุ่นมีความปัจเจกสูง จนบางครั้งผมรู้สึกว่าหลุดโลก คนญี่ปุ่นให้ความสนใจกับแฟชั่น และบริโภคนิยมสุดขั้ว ในเรื่องนี้ผมคิดว่าประเทศเราดีกว่า คนไทยรู้จักที่จะพอเพียง และรู้ว่าแบรนเนมไม่ใช่สิ่งสำคัญในชีวิต ผมเห็นว่าคนญี่ปุ่นใช้แบรนเนม ไม่ว่าจะเป็นหลุยติ่งต้องเอ้ย ยี่ห้อโน่นยี่ห้อนี้ คนญี่ปุ่นแต่งตัวเก่งมาก คนเราวัดกันที่ตรงนี้หรือ แต่ถ้ามองโลกในแง่ดีผมว่าผู้หญิงญี่ปุ่นเมื่อแต่งเนื้อแต่งตัวก้อดูดีสวยน่ารัก อะโนเนะไปอีกแบบ

อาหารการกินถ้าไม่คิดถึงราคาที่แพงซะเหลือเกิน ผมว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญการรับประทานอาหารมากๆประเทศหนึ่ง เพราะมีอาหารที่สดและคุณภาพดีให้เรารับประทาน รวมถึงการตกแต่งอาหารที่ทำให้ดูน่ากิน การขายของผู้ขายก้อพูดเพราะมากๆ(แม้ว่าผมจะฟังไม่รู้เรื่องเลยก้อตาม) แพคเก้จของญี่ปุ่นสวยงาม เห็นแล้วอยากชอปทุกอย่างที่เห็น

คนในชุมชนญี่ปุ่นเรียนรู้จุดแข็งของตัวเองทำให้หลายๆเมือง ยกจุดแข็งนี้มาเป็นจุดขายในการท่องเที่ยว เช่น ในเมืองยูจิ ในเกียวโต ก้อยกความเป็นเมืองชาเขียว ให้คนมาเที่ยวมาซื้อชา และรับประทานชาที่ดีที่สุดของประเทศ บ้านเราน่าทำได้นะ เรามีอะไรน่าสนใจกว่าเค้าเยอะ แต่เราขาดการบริหารจัดการ การโฆษณา ถ้าเราทำได้ผมว่าเราเจ๋งกว่าเค้าแน่นอน

พยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นแม่นมาก แม่นอย่างกับตาเห็น ในครั้งที่ผมได้ดูหนังเรื่อง be with you ที่เกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่น ที่แม่นมากผมไม่เคยเชื่อเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อไปเยือนญี่ปุ่นสิ่งนี้กลับเป็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ ญี่ป่นสุดยอดจริงๆ

ที่สุดการผจญภัยในครั้งนี้ ผมได้รับมิตรภาพ ทั้งมิตรภาพของคนในประเทศที่ผมไปเยือนและมิตรภาพจากเพื่นรุ่นพี่ สำหรับการเดินทางครั้งนี้ ขอบคุณพี่ฉั่ว หัวหน้าทัวร์ที่คอยเป็นล่ามจัดตารางการเดินทาง อดทนสำหรับหลายสิ่งหลายอย่าง ผมรักพี่ขึ้นเยอะเลยนะ พี่เสาร์ พี่นุ้ย พี่นี พี่ทั้งสามทำให้ทริปนี้ช่างมีสีสันต์มีความน่ารัก ถ้าขาดพวกพี่ทริปนี้ก็คงไม่มีความหมาย ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างครับ

4 comments:

Anonymous said...

อะไรกันพี่ ไปตั้งสิบวันเขียนตอนเดียวได้ไงกัน เอาอีกๆๆ

พยากรณ์แม่นมากๆขนาดที่ว่า กลางวันแดดเปรี้ยง บอกว่าเย็นจะตกมันก็ตกจริงๆ แต่สงสัยอย่างว่าคนไทยไปเรียนที่นี่เยอะแยะ ทำไมประเทศเราพยากรณ์อากาศมันช่างห่างไกลความแม่นเช่นนี้ล่ะ

Anonymous said...

พี่ฉั่วได้เล่าให้ผมฟังว่า การพยากรณ์อากาศของญี่ป่นมีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ รวมถึงอุปกรณ์ที่ทันสมัย เมื่อหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้พยากรณ์เหมือนกัน ก้อเอาคำพยากรณ์นี้มาประมวล ทำให้พยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นค่อนข้างถูกต้องสูง ส่วนน้องโบว์อยากให้ผมเขียนเรื่องการเดินทางอีก จริงๆการเดินทางครั้งนี้มีแง่มุมอีกหลายอย่างเยอะมาก แต่ผมกลัวว่า เพื่อนๆจะเบื่อซะก่อนที่ผมพูดอยู่ได้กับการเดินทางครั้งนี้ ขอบคุณโบว์นะที่สนใจการเดินทางครั้งนี้

Anonymous said...

ง่ะ ตอนเดียวสรุปสุดๆ
เล่าหน่อยๆ อยากรู้ว่าพี่วิทย์ไปเจออะไรมาบ้างอะ
ซัก 2-3 ตอนก็ยังดีอะ

pickmegadance said...

จะรออ่านตอนต่อไปนะ